• home
  • project and work
    • MEDCHIC and SMID
    • SmileMigraine
    • Creative project
    • TEDx Chiangmai
    • ChivaCare
    • Headache Leader
    • JW Herbal
  • bog bog - the ideas blog
  • Video
  • Event/Talk/Award
  • biography
  • contact
  • Menu

surat tanprawate

M.D.
  • home
  • project and work
    • MEDCHIC and SMID
    • SmileMigraine
    • Creative project
    • TEDx Chiangmai
    • ChivaCare
    • Headache Leader
    • JW Herbal
  • bog bog - the ideas blog
  • Video
  • Event/Talk/Award
  • biography
  • contact
surat tanprawate
M.D.

อย่าวางรถไฟร้างไว้กลางทุ่ง : เรื่องเล่าของ Product Market Fit

Added on June 2, 2025 by Surattanprawate.

รถไฟกลางป่ากับบทเรียนของตลาดที่พร้อมแล้ว

ในพิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่งของ North Carolina มีรถไฟของเล่นธรรมดา ๆ วิ่งวนรอบพื้นที่เล็ก ๆ ไม่มีจุดขายพิเศษ แต่กลับสร้างรายได้เกือบ $250,000 ต่อปี ขณะที่ต้นทุนลงทุนสูงถึง $400,000+ จุดพลิกของความสำเร็จไม่ได้อยู่ที่คุณภาพของรถไฟ แต่คือ "ตำแหน่งที่ตั้ง" ที่มีเด็กและครอบครัวแวะเวียนเข้ามาทุกวัน

“It’s not the product that sells. It’s the presence of people who are ready to buy.”
— Aeron, Tech Entrepreneur

การมีผลิตภัณฑ์ที่ดีแต่ไม่มีใครเห็น เปรียบเสมือนนักเตะที่ฟิตแค่ไหนแต่ไม่มีโอกาสลงสนาม ก็ยิงประตูไม่ได้อยู่ดี

Product-Market Fit ไม่ได้แปลว่า Product ดี แต่แปลว่า Market “พร้อมจะซื้อ”

หลายคนเข้าใจว่า Product-Market Fit หมายถึงการทำสินค้าที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่ความจริงคือมันหมายถึงการ "เอาสินค้าที่ใช่ ไปเสนอในเวลาที่ใช่ ต่อหน้าคนที่พร้อมจะจ่าย"

“Don’t find customers for your products, find products for your customers.”
— Seth Godin

นี่คือกับดักของสตาร์ทอัพหลายเจ้า ที่คิดว่า Product ดีต้องขายได้ โดยลืมไปว่า “ตลาด” คือสิ่งที่ต้องมาก่อน ไม่ใช่สิ่งที่จะตามมาในภายหลัง

กรณีศึกษา: Quibi — แพลตฟอร์มที่เจ๊งเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์

Quibi ลงทุนกว่า $1.75 พันล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างแพลตฟอร์มวิดีโอสั้นที่ดูผ่านมือถือเท่านั้น แต่ล้มเหลวภายใน 6 เดือนทำไม? เพราะแม้จะมีคอนเทนต์คุณภาพสูงและทีมงานระดับโลก แต่ ไม่มีตลาดที่ต้องการดูวิดีโอแนวนี้ในบริบทที่ Quibi ตั้งใจ นี่คือรถไฟกลางทุ่งร้างอีกหนึ่งขบวน

Business ≠ Product | Business = Learning System

“The real product of a startup is not the product—it’s the learning.”
— Eric Ries, The Lean Startup

ธุรกิจไม่ใช่ของสำเร็จรูป แต่มันคือกระบวนการเรียนรู้ซ้ำ ๆ: ลองผิด ล้มเหลว เรียนรู้ และทำใหม่ ยิ่งถ้าคุณทำสิ่งที่ “ไม่เคยมีใครทำมาก่อน” ยิ่งไม่มีตำราให้เดินตาม ยิ่งต้องรู้ว่าเรากำลังอยู่ในสนามจริง ไม่ใช่ห้องแล็บ

อย่าสร้างรถไฟกลางทุ่งร้าง

เพราะคุณอาจกำลังทำเหมือนคนที่เห็นรถไฟขายดีในพิพิธภัณฑ์ แล้วทุ่มเงินซื้อรถไฟมาสร้างเอง แต่ลืมว่า...

  • พิพิธภัณฑ์คือระบบนิเวศ ที่มี traffic

  • เด็กคือกลุ่มเป้าหมายที่อยู่แล้ว

  • รถไฟคือการเก็บเงินจากโอกาสที่มีอยู่แล้ว

เปรียบเสมือนธุรกิจที่มีชุมชนก่อน มีคนดู มีความสัมพันธ์ และ สินค้า เป็นเพียง “ช่องทางการเก็บรายได้” จากความเชื่อมั่นที่สร้างมา

Start with Market, Not Just Product

ดังนั้น ก่อนคิดจะสร้างอะไร ให้ถามคำถามสำคัญว่า:

  • ใครจะใช้สิ่งนี้ในวันนี้เลย?

  • เขามีปัญหานั้นจริงไหม?

  • เขาอยากจ่ายเพื่อแก้ปัญหานั้นไหม?

อย่าลืมว่า Innovation ที่ไม่มีคนรอใช้ = ความว่างเปล่า

ข้อคิดจาก Steve Blank: “Get out of the building”

“No business plan survives first contact with customers.”
— Steve Blank

ไม่มีแผนธุรกิจใดที่รอดจากลูกค้าคนแรก ถ้าอยากสร้างสิ่งที่ตลาดต้องการจริง ๆ คุณต้องออกจากห้องประชุม ไปพบคนที่คุณหวังจะขายของให้ และฟังให้มากกว่าพูด

บทส่งท้าย: ถามตัวเองก่อนจะลงทุนใน “รถไฟของตัวเอง”

คุณแน่ใจหรือยังว่า ตลาดกำลังรอรถไฟแบบคุณ?

เพราะบางที สิ่งที่ทำให้เขาขายได้ ไม่ใช่ของดี
แต่คือ คนที่อยู่ตรงนั้น… พร้อมจะซื้ออยู่แล้ว

In Business, Innovation, startup Tags Business, Innovation
Older: 10 บทเรียนธุรกิจนวัตกรรมจาก Mad Unicorn – จากศูนย์สู่ยูนิคอร์นด้วยสองมือและหัวใจ →
Back to Top