• home
  • project and work
    • MEDCHIC and SMID
    • SmileMigraine
    • Creative project
    • TEDx Chiangmai
    • ChivaCare
    • Headache Leader
    • JW Herbal
  • bog bog - the ideas blog
  • Video
  • Event/Talk/Award
  • biography
  • contact
  • Menu

surat tanprawate

M.D.
  • home
  • project and work
    • MEDCHIC and SMID
    • SmileMigraine
    • Creative project
    • TEDx Chiangmai
    • ChivaCare
    • Headache Leader
    • JW Herbal
  • bog bog - the ideas blog
  • Video
  • Event/Talk/Award
  • biography
  • contact
surat tanprawate
M.D.

เมื่อความรักคือความเห็นแก่ตัวเอง

Added on April 5, 2025 by Surattanprawate.

การหึงหวง ไม่ใช่เพราะรักเขา แต่เป็นเพราะรักตัวเอง

จริง ๆ แล้ว มันมาจากความกลัวล้วน ๆ

กลัวว่าเขาจะไม่สนใจเราเหมือนเดิม

กลัวว่าเขาจะไปชอบคนอื่นมากกว่า

กลัวว่าเราจะ “ไม่พอ” สำหรับเขา

แล้วก็กลัวว่าความรู้สึกที่ให้ไปจะโดนมองข้าม

หึงเพราะกลัวเสีย ไม่ใช่เพราะหวังดี

หวงเพราะกลัวเขาไปจากเรา ไม่ใช่เพราะอยากให้เขามีความสุข

บางทีเราก็แค่ไม่อยากแพ้ ไม่อยากถูกแทนที่

มันเลยกลายเป็นความรู้สึกที่เหนื่อย ทั้งกับตัวเองแล้วก็คนที่อยู่ข้าง ๆ

แต่ถ้ามองให้ลึกกว่านั้น

ความหึงหวงมันสะท้อน “ความยึดมั่นถือมั่น” ในตัวตนและความเป็นเจ้าของ

เป็นเหมือนกับการยึดคนคนหนึ่งไว้ให้เป็นของเรา ทั้งที่ในความเป็นจริง

ไม่มีใครเป็นของใครได้ตลอดไป

นักปราชญ์หลายคนเคยพูดไว้ว่า

“ความรักที่แท้จริงคือการปล่อยให้เป็นอิสระ ไม่ใช่การกักขังไว้ด้วยความกลัว”

เพราะถ้ารักแล้วต้องหวง ต้องควบคุม ต้องกลัวว่าจะถูกแย่ง

นั่นอาจไม่ใช่ความรัก แต่มันคือความอยากครอบครอง

และเมื่อความรักกลายเป็นกรง ความสุขก็จะบินหนีไปเสมอ

สุดท้ายแล้ว…

การปล่อยให้เขาได้เลือกทางของตัวเอง โดยที่เรายังยืนอยู่ได้อย่างมั่นคง

นั่นแหละ คือรักที่โตพอ และรักตัวเองเป็นจริง ๆ

ลูกฉันเป็นคนดี

เพราะยังไงก็ยังเป็นคน คนนั้น ฝังด้วยความเห็นแก่ตัว พ่อแม่สอนแต่ความรักในครอบครัว แต่ไม่ได้สอนให้การเผื่อแผ่ความรักและการลดละความรักตัวเองจนเดือดร้อนคนอื่น

น่าเสียดาย เพราะคนที่จากไป เค้าก็รักชีวิตตัวเองเหมือนกัน

- อจ สุรัตน์

In Life, Person, Philosophy, Psychology Tags psychology, Life
← Newer: 15 ทักษะคนยุคใหม่ ที่เป็นที่ต้องการในปี 2025 Older: Art of the Deal: When Trump Shake the Table →
Back to Top