• home
  • project and work
    • MEDCHIC and SMID
    • SmileMigraine
    • Creative project
    • TEDx Chiangmai
    • ChivaCare
    • Headache Leader
    • JW Herbal
  • bog bog - the ideas blog
  • Video
  • Event/Talk/Award
  • biography
  • contact
  • Menu

surat tanprawate

M.D.
  • home
  • project and work
    • MEDCHIC and SMID
    • SmileMigraine
    • Creative project
    • TEDx Chiangmai
    • ChivaCare
    • Headache Leader
    • JW Herbal
  • bog bog - the ideas blog
  • Video
  • Event/Talk/Award
  • biography
  • contact
surat tanprawate
M.D.

เงิน ความสุข : สองสิ่งที่สำคัญ แต่เราเข้าใจมันอย่างไร

Added on August 30, 2024 by Surattanprawate.

คุณเคยสละเวลาว่างเพื่อหาเงินเพิ่มหรือไม่? คุณไม่ใช่คนเดียวที่ทำแบบนั้นหลอก เพราะพวกเราถูกหลอกว่าตัวกลางที่มีค่าคือเงิน น่าจะซื้อได้ทุกอย่างรวมทั้งความสุขด้วย แต่การทำเช่นนั้นอาจจะทำให้คุณมีความสุขน้อยลง

งานวิจัยล่าสุดแสดงให้เห็นว่าการให้ความสำคัญกับเงินมากกว่ากับเวลา อาจทำให้เรามีความสุขน้อยลงจริงๆ การศึกษาในมหาวิทยาลัยบริติชโคลัมเบีย ซึ่งสำรวจนักศึกษากว่า 1,000 คน พบว่าผู้ที่ให้ความสำคัญกับเวลามากกว่าเงิน รายงานว่ามีความสุขมากขึ้นหนึ่งปีหลังจากสำเร็จการศึกษา เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่ให้ความสำคัญกับเงิน ซึ่งผลลัพธ์นี้ยังคงเป็นจริงแม้จะพิจารณาถึงระดับความสุขก่อนสำเร็จการศึกษาและปัจจัยทางเศรษฐกิจและสังคมที่แตกต่างกัน

แต่นั่นหมายความว่าคุณควรปฏิเสธการขึ้นเงินเดือนครั้งต่อไปหรือไม่? ไม่จำเป็นเสมอไป แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วความมั่งคั่งจะเกี่ยวข้องกับความสุขที่มากขึ้น แต่สิ่งสำคัญกว่าคือวิธีที่คุณใช้และคิดเกี่ยวกับเงินของคุณ ยกตัวอย่างเช่น การศึกษาจากสหราชอาณาจักรที่มีผู้เข้าร่วมมากกว่า 500 คน พบว่าจำนวนเงินในบัญชีเงินฝากมีผลต่อความสุขมากกว่ารายได้เพียงอย่างเดียว ผู้ที่มีเงินออมอย่างน้อย 500 ดอลลาร์รายงานว่ามีความพึงพอใจในชีวิตสูงกว่าผู้ที่มีเงินออมน้อยกว่า แม้ว่าพวกเขายังคงจ่ายหนี้อยู่ก็ตาม

นอกจากนี้ การใช้เงินกับประสบการณ์แทนการซื้อสิ่งของก็สามารถเพิ่มความสุขได้อย่างมีนัยสำคัญ

การสำรวจผู้ขอกู้ยืมเงินมากกว่า 12,000 คน พบว่ากว่า 80% ของคนที่อายุต่ำกว่า 30 ปี มีความสุขมากขึ้นจากการใช้เงินกับประสบการณ์ เช่น การท่องเที่ยวหรือคอนเสิร์ต มากกว่าการซื้อของใช้ เช่น อุปกรณ์ไฮเทคหรือเสื้อผ้า อีกทั้งยังมีการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่าการใช้เงินเพื่อซื้อเวลา เช่น การใช้บริการที่ช่วยประหยัดเวลา สามารถเพิ่มความพึงพอใจในชีวิตได้ถึง 10% แม้แต่สำหรับผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 40,000 ดอลลาร์ต่อปี

การลงทุนเพื่อผู้อื่นยังเป็นวิธีที่ทรงพลังในการเพิ่มความสุขอีกด้วย งานวิจัยกว่าสิบปีแสดงให้เห็นว่าการใช้เงินเพื่อผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นการให้ของขวัญ การบริจาค หรือการช่วยเหลือคนอื่น จะทำให้เรารู้สึกมีความสุขมากขึ้น ตัวอย่างเช่น การทดลองหนึ่งพบว่าผู้คนมีความสุขมากขึ้นเมื่อใช้เงินจำนวนเล็กน้อยเพื่อผู้อื่น แทนที่จะใช้เงินนั้นกับตัวเอง แม้ในเวลาที่พวกเขากำลังพยายามหาเลี้ยงชีพอยู่ก็ตาม

แน่นอนว่าความชอบส่วนตัวก็มีผลเช่นกัน ในการศึกษาหนึ่งพบว่าคนที่ชอบอยู่คนเดียวจะมีความสุขมากขึ้นหลังจากใช้บัตรกำนัลในร้านหนังสือ แทนที่จะเป็นบาร์ ในขณะที่คนที่ชอบเข้าสังคมจะมีความสุขไม่ว่าจะใช้จ่ายที่ไหนก็ตาม นี่เป็นการเน้นย้ำว่าถึงแม้ว่านิสัยการใช้จ่ายบางอย่างจะช่วยเพิ่มความสุขโดยทั่วไป แต่การเลือกใช้เงินของแต่ละคนและบริบทที่เป็นเอกลักษณ์ก็มีความสำคัญ

ดังนั้น ก่อนที่คุณจะตัดสินใจทางการเงินครั้งต่อไป ลองถามตัวเองว่า ค่าใช้จ่ายนี้เพิ่มความสุขให้ฉันจริงๆ หรือไม่?

หากคำตอบคือไม่ อาจถึงเวลาที่ต้องคิดใหม่เกี่ยวกับวิธีที่คุณใช้เงินที่หามาอย่างยากลำบาก จำไว้ว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องเงินมากขึ้น—แต่เป็นการใช้จ่ายอย่างชาญฉลาดเพื่อเพิ่มความเป็นอยู่ที่ดีของคุณ

In Life, Philosophy, Psychology Tags Life
← Newer: Need to success: Select what's matters, and Filter out the noise Older: ถ้าอยากสำเร็จ ก็ดึงตะปูออกจากหัวคุณซะ →
Back to Top