หมอกนั้น… ไม่ได้เห็นชัดในตอนแรก
แต่พอเราเดินลึกเข้าไป — ทุกอย่างเริ่มพร่ามัว
เราคิดว่าเรากำลัง “เดินหน้า”
แต่จริง ๆ แล้ว อาจแค่ “เดินวน” อยู่ที่เดิม
ในโลกของสตาร์ตอัป “หมอก” ที่ว่ามันไม่ใช่ฝุ่นหรือควัน
แต่มันคือความเบลอในใจของคนทำงาน —
ช่วงที่ทุกอย่างเต็มไปด้วยไอเดีย ประชุมไม่หยุด แต่กลับรู้สึกงงกว่าเดิม
อยากทำ แต่เหนื่อย อยากสร้าง แต่ขี้เกียจ
ทำไมถึงเป็นแบบนี้นะ?
พอองค์กรโตขึ้น ฟีเจอร์ต้องออกไวขึ้น ลูกค้าเรียกร้องมากขึ้น นักลงทุนถามเยอะขึ้น
“ความเร็ว” กลายเป็นมาตรฐานใหม่
แต่ไม่มีใครบอกให้ “ชะลอหน่อย”
การประชุม: สัญลักษณ์แห่งความเคลื่อนไหว (แต่บางครั้งแค่ดูเหมือนเคลื่อนไหว)
เรามักคิดว่า
“ประชุม = เคลื่อนไหว”
“คุยเยอะ = ก้าวหน้า”
แต่ในความจริง บางครั้งยิ่งประชุม ยิ่งงง
ไอเดียซ้ำๆ ความเห็นสวนกัน Feedback คนละทาง
สุดท้ายสมองอิ่ม จน “หมอก” เริ่มเข้ามาปกคลุมอีกครั้ง
จากมุมมองทางสมอง —
เมื่อเราประมวลข้อมูลมากเกินไป สมองจะเริ่ม “ตัดสิ่งที่ใช้พลังงานสูง” ออกไปก่อน
สิ่งที่หายไปก่อนเสมอ คือ “ความคิดใหม่” และ “การไตร่ตรองอย่างลึก”
วิธีเดินให้ชัดขึ้น: หยุดก่อน แล้วค่อยเดินต่อ
ในวงการแพทย์ เขาเรียกว่า “Stop & Think”
หยุด ประเมิน แล้วค่อยให้ยา
ในธุรกิจก็เช่นกัน — การ “หยุดคิดก่อนลงมือ” คือทักษะสำคัญที่คนทำงานเร็วมักมองข้าม
1. กลับมาถามคำถามแก่น ๆ
เรากำลังแก้ปัญหาอะไร?
ใครอยู่ในห้องนี้ ใครมีสิทธิ์ตัดสินใจ ใครต้องรับผล?
ถ้าเราชะลอหรือตัดบางอย่างออก — อะไรจะหายไป และอะไรจะชัดขึ้น?
2. ลดการประชุมที่ไม่จำเป็น
ใช้เวลาน้อยลงกับการถกย่อย
แต่ใช้เวลามากขึ้นกับการตั้งโจทย์ใหญ่ ๆ ที่มีผลจริง
3. ออกแบบการสื่อสารให้มีกรอบ (Framing Communication)
เพราะสมองคนเราจำ “เรื่องราว” ได้ดีกว่า “ข้อมูล”
เล่าให้เห็นภาพ เข้าใจง่าย — นั่นคือหัวใจของการสื่อสารที่มีพลัง
4. ฝึก “การถอยออก” เพื่อมองภาพรวม
ตั้ง “วันไม่มีประชุม” เพื่อให้ทีมได้พัก
หรือทำ “รีเฟล็กชันสั้น ๆ” ทุกสิ้นสัปดาห์ —
ถามกันตรง ๆ ว่า “อะไรดีขึ้น?” และ “อะไรพัง?”
บางครั้ง การเดินหน้าจริง ๆ
คือการ “หยุด” เพื่อมองให้เห็นว่าทางข้างหน้าคือทางไหน