• home
  • project and work
    • MEDCHIC and SMID
    • SmileMigraine
    • Creative project
    • TEDx Chiangmai
    • ChivaCare
    • Headache Leader
    • JW Herbal
  • bog bog - the ideas blog
  • Video
  • Event/Talk/Award
  • biography
  • contact
  • Menu

surat tanprawate

M.D.
  • home
  • project and work
    • MEDCHIC and SMID
    • SmileMigraine
    • Creative project
    • TEDx Chiangmai
    • ChivaCare
    • Headache Leader
    • JW Herbal
  • bog bog - the ideas blog
  • Video
  • Event/Talk/Award
  • biography
  • contact
surat tanprawate
M.D.

Innovation Dream Team ทีมนวัตกรรมในฝัน

Added on October 11, 2025 by Surattanprawate.

ทีมนวัตกรรม ที่คอยขับเคลื่อนนวัตกรรม ในองค์กรต้องมีใครบ้าง องค์ประกอบมีอะไร

คำตอบหนึ่งที่หลายองค์กรเริ่มค้นพบ คือการตั้งทีมเฉพาะกิจที่มีภารกิจใหญ่เพียงหนึ่งเดียว — สร้างนวัตกรรมให้เกิดขึ้นจริงในองค์กร

หรือที่เรียกกันว่า “Innovation Dream Team”

กลุ่มคนนี้ นอกจากคิดไอเดียแปลกใหม่ แต่คือหัวใจในการฝังรากวัฒนธรรมแห่งการทดลอง การล้มเหลวอย่างมีกลยุทธ์ และการเติบโตผ่านการเรียนรู้เข้าสู่โครงสร้างองค์กร

ทำไมองค์กรถึงต้องมี Innovation Dream Team?

ก่อนจะพูดถึงรายละเอียดของทีม เราต้องย้อนกลับมาทำความเข้าใจพื้นฐานเสียก่อนว่า “นวัตกรรม” ในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงแค่เทคโนโลยีใหม่ หรือการคิดสินค้าใหม่ออกมาขายเท่านั้น แต่นวัตกรรมหมายถึง “กระบวนการสร้างคุณค่าใหม่ๆ” ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของสินค้า บริการ กระบวนการทำงาน หรือโมเดลธุรกิจ

หลายองค์กรเริ่มจากการประกาศ “อยากสร้างวัฒนธรรมนวัตกรรม” แต่ไม่สามารถแปลงความตั้งใจนั้นให้กลายเป็นรูปธรรมได้ เพราะไม่มีคนกลางที่ทำหน้าที่ “เชื่อม” ระหว่างยุทธศาสตร์กับการปฏิบัติ ไม่มีทีมที่ “ทุ่มเท” ทำงานนี้อย่างจริงจัง

นั่นคือเหตุผลที่ “Innovation Dream Team” จึงเกิดขึ้น — ไม่ใช่ทีมที่ฝันกลางวัน แต่เป็นทีมที่กล้าฝัน และกล้าทำให้ความฝันนั้นกลายเป็นความจริง

หน้าที่หลักของทีมสร้างนวัตกรรม

จากงานศึกษาของ George Krasadakis และองค์กรชั้นนำทั่วโลก มีการระบุหน้าที่ของทีมสร้างนวัตกรรมไว้อย่างชัดเจน 6 ด้าน ดังนี้:

1. วางกลยุทธ์นวัตกรรม และกำหนดเป้าหมายที่วัดผลได้

ทีมต้องนิยามคำว่า “นวัตกรรม” ให้ชัดในบริบทขององค์กร พร้อมทั้งกำหนดเส้นทางที่ต้องการเดิน การตั้งเป้าหมายที่วัดผลได้ เช่น จำนวน MVP ที่พัฒนาได้ภายในปี หรือสัดส่วนรายได้จากสินค้า/บริการใหม่ เป็นสิ่งสำคัญ เพราะ “สิ่งที่วัดได้ จึงจะพัฒนาได้”

2. พัฒนาเครื่องมือ สนับสนุนการคิดใหม่ ทำใหม่

ไม่ใช่ทุกคนจะมีพื้นที่ให้ทดลอง หรือมีแพลตฟอร์มในการแชร์ไอเดีย ทีมนี้จึงต้องจัดหาเครื่องมือ เช่น ระบบระดมความคิด ซอฟต์แวร์จัดการนวัตกรรม หรือจัด Hackathon เพื่อกระตุ้นการมีส่วนร่วม และทำให้วัฒนธรรมใหม่ค่อยๆ ซึมซับเข้าสู่องค์กร

3. สร้างนวัตกรรมจริงให้เห็นเป็นตัวอย่าง

“อยากเปลี่ยนวิธีคิดคนอื่น ต้องเริ่มจากลงมือทำให้ดู” ทีมต้องทำหน้าที่นำร่องโครงการนวัตกรรมด้วยตนเอง เพื่อเป็นต้นแบบให้หน่วยงานอื่นเห็นว่านวัตกรรมไม่ได้เป็นแค่แนวคิดลอยๆ แต่สามารถสร้างมูลค่าทางธุรกิจได้จริง

4. สื่อสาร สร้างแรงบันดาลใจ และขยายแนวคิด

ไม่มีนวัตกรรมใดเติบโตได้หากขาดการสื่อสาร ทีมต้องสื่อสารความสำเร็จ ความท้าทาย และบทเรียนให้กับองค์กรอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ และเปลี่ยน “ผู้ตาม” ให้กลายเป็น “ผู้ร่วมขบวน”

5. วัดผล และปรับปรุงแนวทางให้ยืดหยุ่น

นวัตกรรมไม่ใช่เส้นตรง มีโอกาสหลงทาง หรือเจอ “เซอร์ไพรส์” ได้ตลอดเวลา ทีมจึงต้องตั้งเกณฑ์วัดผลที่ชัดเจน และพร้อมปรับกลยุทธ์อย่างคล่องตัว โดยไม่เสียเป้าหมายใหญ่

6. บริหารความเสี่ยง และป้องกันไม่ให้เกิดความปั่นป่วน

ในบางกรณี การระดมความคิดอย่างไม่มีระบบ อาจกลายเป็น “เสียงรบกวน” ที่เบี่ยงเบนความสนใจจากภารกิจหลักขององค์กร ทีมจึงต้องบริหารความสมดุลระหว่าง “นวัตกรรม” กับ “ธุรกิจปกติ” อย่างแยบยล

โครงสร้างของ Innovation Dream Team ที่ยั่งยืน

ทีมที่ดีไม่ใช่แค่ “คนเก่งรวมตัวกัน” แต่ต้องเป็นกลุ่มคนที่มีความหลากหลาย ทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการ และชัดเจนในบทบาท ซึ่งประกอบด้วย 9 บทบาทสำคัญ ดังนี้:

1. นักวางกลยุทธ์ (Strategists)

คือผู้มองภาพใหญ่ รู้จักวางเกม วางทาง พวกเขาต้องเข้าใจทั้งโครงสร้างธุรกิจ เทคโนโลยี และพฤติกรรมตลาด เพื่อออกแบบทิศทางการพัฒนาอย่างแม่นยำ

2. ผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ (Product Experts)

เป็นคนที่เข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้ง มองเห็นแนวโน้มของความต้องการที่เปลี่ยนไป และแปลงสิ่งนั้นเป็นสินค้า บริการ หรือโอกาสเชิงธุรกิจ

3. นักเทคโนโลยี (Technologists)

คือทีมที่รู้จักเครื่องมือ เทคนิค และวิธีคิดแบบ Agile, Lean, Prototyping พวกเขาคือคนสร้างของจริงจากไอเดีย

4. ผู้จัดการโครงการ (Program Managers)

เป็นหัวใจของการลงมือทำจริง คนที่รับผิดชอบในการบริหารทรัพยากร เวลา และความร่วมมือข้ามหน่วยงานเพื่อให้โปรเจกต์เดินหน้า

5. ผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพย์สินทางปัญญา (IP Experts)

แม้ไม่ได้ตั้งเป้าจดสิทธิบัตร แต่หากวันหนึ่งมีไอเดียดีพอ ทีมนี้ต้องพร้อมจับโอกาส และปกป้องความได้เปรียบเชิงการแข่งขันทันที

6. นักนวัตกรรมตัวจริง (True Innovators)

คือคนที่กล้าทดลอง กล้าล้มเหลว และกล้าเรียนรู้ พวกเขาทำงานเพื่อสร้างแนวทางใหม่ ไม่ใช่เดินตามสูตรสำเร็จเก่า

7. ผู้สื่อสารวัฒนธรรม (Innovation Advocates)

หน้าที่ของพวกเขาคือ “สื่อสารให้คนทั้งองค์กรเข้าใจ” ว่านวัตกรรมคืออะไร สำคัญแค่ไหน และพวกเขามีบทบาทอย่างไรในกระบวนการนี้

8. ผู้เชี่ยวชาญด้านกระบวนการ (Innovation Specialists)

คนที่ช่วยแนะนำแนวทางใหม่ เช่น Design Thinking, Systems Thinking หรือ Lean Startup รวมถึงเป็นผู้นำการจัดเวิร์กช็อปและกิจกรรมต่างๆ

9. นวัตกรรับเชิญ (Guest Innovators)

สมาชิกหมุนเวียนจากหน่วยงานอื่นที่เข้ามาเรียนรู้และร่วมสร้างนวัตกรรม เป็นกลไกสำคัญที่ช่วยหล่อเลี้ยงความเข้าใจ และเชื่อมโยงระหว่าง “ทีมเฉพาะกิจ” กับ “องค์กรโดยรวม”

ข้อควรระวัง: เมื่อทีมอยู่สูงเกินไป

การมีทีมที่โดดเด่นและได้ทรัพยากรพิเศษ อาจทำให้เกิดความรู้สึกแปลกแยกในองค์กร เช่น การที่ทีมนี้อยู่ใน "Sandbox" ที่ไม่มีข้อจำกัดเหมือนหน่วยงานอื่น จึงต้องระวังไม่ให้ทีมกลายเป็น “คนวงในที่ขาดการสื่อสารกับคนวงนอก”

การหมุนเวียนสมาชิก การจัดเวทีแลกเปลี่ยน และการรายงานผลอย่างโปร่งใส จะช่วยทำให้ทีมไม่กลายเป็น “คนนอกในองค์กรของตนเอง”

นวัตกรรมต้องมีเจ้าภาพ

นวัตกรรมที่ยั่งยืน ไม่ได้เกิดจากแรงบันดาลใจชั่ววูบ หรือโครงการเฉพาะกิจที่จบแล้วจบเลย แต่มาจากการมีระบบ คน และวัฒนธรรมที่ต่อเนื่อง

Innovation Dream Team จึงไม่ใช่ทีมเสริม แต่คือทีมหลัก ที่จะทำให้ “องค์กรคิดใหม่ได้อย่างมีกลยุทธ์” และ “ทำใหม่ได้อย่างมีแบบแผน”

ไม่ว่าองค์กรของคุณจะใหญ่หรือเล็ก หากอยากให้นวัตกรรมเป็นมากกว่าแค่คำบนกระดาน ก็อาจถึงเวลาที่ต้องตั้งทีมนี้ขึ้นมาอย่างจริงจัง

In Innovation, startup Tags innohealth, innovator, organization, team
← Newer: From Traction to Growth: แผนที่สามขั้นของ Startup ที่ไม่ควรมองข้าม Older: Designing the Future of Care: Where AI Meets Human-Centered Health [HealthNEXT2025] →
Back to Top