• home
  • project and work
    • MEDCHIC and SMID
    • SmileMigraine
    • Creative project
    • TEDx Chiangmai
    • ChivaCare
    • Headache Leader
    • JW Herbal
  • bog bog - the ideas blog
  • Video
  • Event/Talk/Award
  • biography
  • contact
  • Menu

surat tanprawate

M.D.
  • home
  • project and work
    • MEDCHIC and SMID
    • SmileMigraine
    • Creative project
    • TEDx Chiangmai
    • ChivaCare
    • Headache Leader
    • JW Herbal
  • bog bog - the ideas blog
  • Video
  • Event/Talk/Award
  • biography
  • contact
surat tanprawate
M.D.

คิดตรรกะ แบบนักกลยุทธ์

Added on July 28, 2025 by Surattanprawate.

ตรรกะ ฟังดูเหมือนอะไรที่แห้งแล้งใช่มั้ย เหมือนนักวิทยาศาสตร์แว่นหนาเตอะที่เขียนสูตรบนกระดานดำ ไม่ก็ คิดถึงคณิตศาสตร์กับห้องเรียนที่เงียบกริบรึเปล่า?

แต่เดี๋ยวก่อน! ถ้าคุณรู้จักตรรกะในแบบที่มือวางอันดับหนึ่งด้านกลยุทธ์ใช้กัน มันจะกลายเป็นเครื่องมือวิเศษในการวิเคราะห์ข้อมูล เล่าเรื่อง และโน้มน้าวคนอย่างมืออาชีพ!

เรามารู้จัก 3 ประเภทของตรรกะ ที่แยกความคิดแบบ นักวิเคราะห์หัวแหลม ออกจาก นักเล่าเรื่องเจ้าเสน่ห์ กันดีกว่า

1. Deductive Logic (ตรรกะนิรนัย)

จากทั่วไป → สู่เฉพาะ

คิดแบบนักสืบโคนันหรือเชอร์ล็อก โฮล์มส์! ตรรกะแบบนี้เริ่มจากความจริงที่กว้าง แล้วไล่เรียงลงมาสู่ข้อสรุปเฉพาะอย่างชัดเจน

ความเจ๋ง: ให้ “ความแน่นอน” เพราะถ้าเหตุผลทั้งหมดถูกต้อง ข้อสรุปก็ถูกชัวร์!

ตัวอย่าง:

  • สินค้าของเราราคาแพง

  • สินค้าแพงดึงดูดลูกค้าที่มีรายได้สูง

  • ดังนั้น สินค้าของเราน่าจะเหมาะกับกลุ่มลูกค้ารายได้สูง

2. Inductive Logic (ตรรกะอุปนัย)

จากเฉพาะ → สู่ทั่วไป

แนวคิดแบบนักทดลอง หรือพวกที่ชอบดูเทรนด์แล้วเอามาโยงภาพรวม! เริ่มจากสิ่งเล็กๆ หลายอย่าง แล้วค่อยๆ มองเห็นภาพใหญ่

ความเจ๋ง: ใช้ “ความน่าจะเป็น” ช่วยวิเคราะห์ เหมาะกับการวางแผนเชิงกลยุทธ์

ตัวอย่าง:

  • 3 แคมเปญล่าสุดที่เรามีฟีดแบคเร็ว ผลตอบรับดี

  • แสดงว่าฟีดแบคเร็วมีผลดีต่อผลลัพธ์

  • สรุป: ฟีดแบคเร็ว น่าจะ ทำให้ผลลัพธ์ดีขึ้น

3. Abductive Logic (ตรรกะอภินิรนัย)

จากข้อมูลกระจัดกระจาย → สู่การเดาอย่างมีเหตุผล

นี่คือวิธีคิดแบบนักสืบสายอาร์ต หรือผู้บริหารที่ต้องตัดสินใจไวในภาวะที่ไม่แน่ชัด มองข้อมูลต่างๆ แล้ว “เชื่อมโยง” หาข้อสรุปที่น่าจะใช่ที่สุด

ความเจ๋ง: ใช้ “สัญชาตญาณเชิงตรรกะ” — ดีไซน์การคาดเดาให้มีน้ำหนัก

ตัวอย่าง:

  • ยอดขาย Q3 ดรอป

  • มีคู่แข่งเปิดตัวช่วงนั้นพอดี

  • สรุป: คู่แข่งเปิดตัว น่าจะ ทำให้ยอดเราตก

แล้วแบบไหนดีกว่ากัน?

จริง ๆ แล้ว ทั้ง 3 แบบ ดีหมด ถ้าใช้ให้ถูกบริบท!

  • ถ้าอยากให้ข้อสรุปแม่นยำไร้ข้อกังขา → ไป Deductive

  • ถ้าอยากวิเคราะห์เทรนด์หรือพฤติกรรมในอนาคต → ลอง Inductive

  • ถ้าอยู่ในสถานการณ์ไม่ชัดเจนแต่ต้องตัดสินใจเลย → ต้องใช้ Abductive

สรุปง่าย ๆ:

  • Deductive: เป๊ะ! มั่นใจได้

  • Inductive: วัดใจจากข้อมูล

  • Abductive: เชื่อมโยง สังเคราะห์ ฉับไว!

ตรรกะไม่ใช่แค่ของคนคำนวณเก่ง แต่คือ เครื่องมือของนักคิดระดับยุทธศาสตร์ ถ้าใช้เป็นเมื่อไหร่ จะได้กลายเป็นคนที่ทั้ง “คิดลึก” และ “เล่าเรื่องได้ทรงพลัง” ไปพร้อมกัน! นะ

In Creativity Tags logic, science
← Newer: InnoVex 2025, Taipei Older: อีก 10 ปี AI จะแทนที่หมอได้จริงหรือ? →
Back to Top